ทำไมถึงต้องใช้บริการ VPN
เครือข่ายส่วนตัวเสมือน (VPN) เป็นบริการรักษาความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ตที่อนุญาตให้ผู้ใช้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตราวกับว่าพวกเขาเชื่อมต่อกับเครือข่ายส่วนตัว VPN ใช้การเข้ารหัสเพื่อสร้างการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยบนโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตที่ไม่ปลอดภัย
VPN ช่วยรักษาความปลอดภัยของข้อมูลได้อย่างไร
การเข้ารหัสเป็นวิธีการแปลงข้อมูลเพื่อให้บุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่สามารถเข้าใจข้อมูลได้ นำข้อมูลที่อ่านได้ไปแก้ไขเพื่อให้ปรากฏเป็นแบบสุ่มแก่ผู้โจมตีหรือใครก็ตามที่สกัดกั้น ด้วยวิธีนี้ การเข้ารหัสก็เหมือน "รหัสลับ"
VPN ทำงานโดยสร้างการเชื่อมต่อที่เข้ารหัสระหว่างอุปกรณ์ อุปกรณ์ทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับ VPN จะตั้งค่าคีย์สำหรับการเข้ารหัส และคีย์เหล่านี้ใช้เพื่อเข้ารหัสและถอดรหัสข้อมูลทั้งหมดที่ส่งระหว่างกัน
ผลของการเข้ารหัสนี้คือ การเชื่อมต่อ VPN ยังคงเป็นส่วนตัว แม้ว่าจะขยายข้ามสู่โครงข่ายอินเทอร์เน็ตสาธารณะก็ตาม ลองนึกภาพว่า ต้นกำลังช้อปปิ้งออนไลน์จากห้องพักในโรงแรม สมมติว่าอาชญากรแอบแทรกซึมเข้าสู่โครงสร้างเครือข่ายของโรงแรม และกำลังตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดที่ส่งผ่าน (คล้ายกับการดักฟังสายโทรศัพท์) ข้อมูลของต้นจะยังคงปลอดภัย เนื่องจากการใช้ VPN ข้อมูลที่อาชญากรเห็นทั้งหมดจะถูกเข้ารหัสไว้
เมื่อคุณทำธุรกรรมหรือเมื่อคุณต้องการส่งหรือรับข้อมูลที่ละเอียดอ่อน VPN จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่คุณ
ฉันจำเป็นต้องใช้ VPN บนอุปกรณ์ทั้งหมดของฉันหรือไม่
ใช่ คุณจะต้องติดตั้งไคลเอนต์ VPN ในแต่ละอุปกรณ์ที่คุณต้องการเชื่อมต่อกับ VPN
โชคดีที่ VPN ทั้งหมดที่ได้รับการแนะนำบนไซต์ของเราอนุญาตให้คุณเชื่อมต่ออุปกรณ์หลายเครื่องด้วยบัญชีเดียว
ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะใช้ Windows บนพีซี, แล็ปท็อป, Macbook, iPhone หรือ Android คุณจะสามารถเชื่อมต่อกับบัญชี VPN ของคุณได้อย่างง่ายดายด้วยอุปกรณ์ใดๆ โดยไม่ต้องลงทะเบียนบัญชีใหม่
เราเลือก VPN ที่ดีที่สุดอย่างไร
เราได้ทำการทดสอบ รีวิว และจัดอันดับข้อเสนอ VPN ชั้นนำหลายสิบรายการ เพื่อทำการจัดอันดับ 10 ซอฟต์แวร์ VPN ที่ดีที่สุดนี้ขึ้นมา ในการพิจารณาว่า VPN ตัวใดคุ้มค่าเงินของคุณจริงๆ เราได้พิจารณาฟีเจอร์ ชื่อเสียง และราคาของแต่ละแบรนด์
เหตุผลหลักในการใช้ VPN ตั้งแต่แรกคือ ความปลอดภัย นั่นเป็นเหตุผลที่เราเลือก VPN ที่มีการเข้ารหัสระดับเดียวกับทางการทหาร โปรโตคอลที่หลากหลาย (OpenVPN, L2TP, IKEv2 และอื่นๆ) การป้องกันการรั่วไหลของ DNS และ kill-switch เรายังได้ทำการเปรียบเทียบจำนวนเซิร์ฟเวอร์ของแบรนด์ VPN พร้อมที่ตั้ง รวมไปถึงความเร็วและเวลาแฝงอีกด้วย
จากนั้น เราดูที่ความง่ายในการใช้งาน การสนับสนุนลูกค้า และรีวิวมากมายจากเว็บไซต์ต่างๆ เช่น Trustpilot
สุดท้าย เราเปรียบเทียบราคาของแต่ละบริการ VPN เพื่อช่วยให้เราค้นพบข้อเสนอที่ดีที่สุด และคุ้มค่าเงินมากที่สุด